เบาหวาน…หายได้จริงหรือ?

สิงหาคม 23, 2017

เบาหวาน…หายได้จริงหรือ?

อาการของเบาหวาน

สาเหตุและผลข้างเคียง
เบาหวานเกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ หรือพูดง่ายๆก็คือ ระดับน้ำตาลที่เรากินเข้าไปกับฮอร์โมนอินซูลินไม่สมดุลกัน นั่นหมายความว่าหากเรากินอาหารประเภทที่เป็นน้ำตาลมากๆบ่อยๆ (ซึ่งหมายความถึงแป้งด้วย ) ก็ทำให้ร่างกายหรือตับอ่อนต้องผลิตอินซูลินมากมากๆและบ่อยๆ จนไม่เพียงพอ จนทำให้น้ำตาลล่องลอยอยู่ในเลือดมากเกินไป. เมื่อไปตรวจเลือดเพื่อดูระดับน้ำตาล จึงสูงกว่าปกติ ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงนี้จะมีผลเสียต่อร่างกาย ก่อให้เกิดโรคต่างๆเช่น โรคหลอดเลือดตีบตัน, โรคความดันเลือดสูง,โรคไต โรคชาตามแขนขา ฯลฯ
เบาหวานทำให้เกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน อธิบายได้ง่ายๆคือเมื่อเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง น้ำตาลจะไปทำลายผนังหลอดเลือดจนเกิดความเสียหาย จากนั้นร่างกายก็จะมีกระบวนการมาซ่อมแซม โดยจะมีเซลล์ต่างๆ และเม็ดเลือดขาว มาปะซ่อมอุด จนเป็นเหตุให้ทางเดินของหลอดเลือดแคบลง หากหลอดเลือดนี้อยู่บริเวณหัวใจ ก็ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เบาหวานทำให้เกิดโรคความดันเลือดสูง เมื่อน้ำตาลในเลือดสูงมีผลให้เลือดเข้มข้นกว่าปกติ หัวใจซึ่งมีหน้าที่เหมือนปั๊มสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกายก็ต้องทำงานหนักขึ้น เลือดไหลแรงขึ้นประกอบกับเส้นเลือดมีน้ำตาลไปเกาะ ความยืดหยุ่นเสียสภาพไป จึงมีผลทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นนั่นเอง
เบาหวานทำให้เป็นโรคไต ในภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดปกติ ไตก็สามารถกรองน้ำตาลไว้ได้ แต่พอน้ำตาลมีมากเกินไป ทำให้กระบวนการกรองบกพร่อง จนมีน้ำตาลเล็ดลอดออกมาพร้อมกับปัสสาวะ และนอกจากนี้ก็ยังมีน้ำตาลที่สูง ยังทำให้เส้นเลือดที่ไตได้รับความเสียหาย นานวันขึ้นไตก็จะทำหน้าที่แย่ลง กลายเป็นโรคไตในที่สุด
เบาหวานยังทำให้เกิดอาการชาตามแขนขา ก็เพราะเม็ดเลือดที่มีน้ำตาลเกาะอยู่ จะมีขนาดใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถเดินทางผ่านหลอดเลือดเล็กๆที่บริเวณปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เมื่อเม็ดเลือดผ่านไปไม่ได้ เส้นประสาทบริเวณนั้นก็จะขาดสารอาหารและออกซิเจน นานวันขึ้นก็จะทำให้เส้นประสาทเสื่อมรับความรู้สึกไม่ได้ เกิดเป็นอาการชาขึ้นนั่นเอง

 

แนวทางการรักษา
การรักษาในปัจจุบัน คือการกินยาเพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง หรือการใช้อินซูลินชนิดฉีดเพื่อทดแทน แต่การรักษาด้วยวิธีการเหล่านี้ก็ยังพบว่า อาการของโรคต่างๆมักไม่ดีขึ้น ทั้งๆที่ระดับน้ำตาลลดลง แนวคิดในเรื่องการรักษาเบาหวานด้วยวิธีธรรมชาติอาจตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะคนที่เป็นเบาหวานไม่ควรคิดจะพึ่งยาเพียงอย่างเดียว ควรปฏิวัติชีวิตความเป็นอยู่และอาหารการกินเสียใหม่ น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

 

วิธีการปฏิบัติตน
1.ควรลดการบริโภคแป้งและน้ำตาลให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะข้าวขัดขาวที่เรากินกันเป็นอาหารหลักกันอยู่ทุกวันนี้ ควรเปลี่ยนเป็นข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ เนื่องจากข้าวเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะต้องใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมมากขึ้น จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ นอกจากนี้ยังทำให้อิ่มนานไม่เกิดอาการหิวบ่อยๆอีกด้วย นอกจากนี้ก็ควรงดอาหารหรือขนมที่ทำจากแป้ง  ขนมปังก๋วยเตี๋ยว ผลไม้ที่หวานมากๆเพื่อเป็นการลดภาระของตับอ่อนในการผลิตอินซูลิน
2.ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากช่วยให้ร่างกายเกิดการใช้น้ำตาลในเลือดไปเป็นพลังงานแล้ว ยังทำให้หัวใจทำงานดีขึ้น สูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้เป็นอย่างดี
3.ควรบริโภคอาหารหรือสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เช่น อาหารที่มีรสขม มะระขี้นก บอระเพ็ด อบเชย ใบอินทนินน้ำและกินผักสดๆมากขึ้นเมื่อเราไม่ซ้ำเติมร่างกายด้วยการหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่เพิ่มน้ำตาลแล้ว ตับอ่อนก็จะทำงานลดลง มีเวลาพักหรือฟื้นฟูเซลล์ต่างๆได้มากขึ้น ระดับน้ำตาลก็จะเป็นปกติ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆก็จะทุเลาหรือหายไปได้ ดังนั้นใครก็ตามที่เป็นเบาหวาน. ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเบาหวานหรือกินยาตลอดชีวิต เบาหวานหายได้ หากเราเข้าใจและดูแลเอาใจใส่ร่างกายของเรา อย่างถูกวิธี ชีวิตก็จะมีความสุขปลอดโรคตลอดไป…
4.นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ควรเข้านอนไม่เกิน4ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเวลาเราหลับสนิท ร่างกายจะมีกลไกในการซ่อมแซมและจะช่วยฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ. ตับจะทำงานในการล้างสารพิษหรือดีท็อกซ์อย่างเต็มที่ ตับอ่อนก็เช่นกัน หากไม่นอนหลับในช่วงเวลานี้ ก็จะทำให้อวัยวะต่างๆเสื่อมลงเรื่อยๆ การบำบัดด้วยวิธีอื่นก็จะไม่ได้ผลไปด้วย